จ๊ะเอ๋บ๊ายบาย_ไดอารี่ วันนี้ขอเล่าสู่กันฟังว่า "เราจะใช้ชีวิตอย่างไรในโลกที่น่าเศร้า ?"
............
วันนี้ฉันเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมาทำงาน...พร้อมกับ ‘ใจที่จ๊ะเอ๋กับความกังวลนิดๆ' เรื่องงานซับซ้อนที่เร่งเข้ามา
พอต่อ WIFI...ฟีดข่าวสารพัดก็เด้งขึ้นมาและราวกับว่าคนในข่าวต่างๆ นั้นอยู่กันคนละโลก ภาพคนกลุ่มหนึ่งกำลังเจอน้ำท่วมถึงคอและร้องขอความช่วยเหลือ คนอีกกลุ่มหนึ่งกำลังเฉลิมฉลองอย่างหรูหรา คนกลุ่มหนึ่งกำลังดิ้นรนเพื่อรายได้หลักร้อยให้มีกินในแต่ละวัน คนอีกกลุ่มหนึ่งกำลังหาช่องทางที่จะสร้างสายป่านแห่งการคดโกงให้ได้ยาวนานที่สุด ... ยอมรับว่าความรู้สึกช่วงนี้มันจ๊ะเอ๋กับ ‘ความเศร้า’ ที่เห็นสังคมมาถึงวันที่ผู้คนเอาตัวรอดแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา โดยการเอานั้นแม้จะทำให้คนเป็นเหยื่อต้องถึงตาย เรื่องแบบนี้กลับกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเห็นอยู่ทุกวัน
ความรู้สึกที่ไม่ใช่แค่ ‘เศร้า’ แต่ลึกๆ ก็ ‘โกรธ’ ด้วย แต่นาทีนั้นฉันยังมีบุญเก่าที่คำสอนของคุณแม่ศันสนีย์มาช่วยเตือนสติว่า “อยู่กับโลกอย่างที่โลกเป็น” ประสบการณ์สอนว่าเราทำให้โลกเป็นอย่างใจเราไม่ได้ แต่เมื่อเราจัดใจเราเพื่อเข้าใจความจริงของโลกได้ เราจึงจะมีปัญญาที่จะอยู่อย่างมีคุณค่าในโลกใบนี้
ในโลกที่แม้ไกลกันแต่สามารถ 'กระทบ' เราผ่านข่าวสารทุกทางอย่างทุกวันนี้ ฉันเห็น 'ใจกระเทือน' กับคำว่า 'คิดถึง' คิดถึงคุณแม่ศันสนีย์และคำพูดของท่าน เมื่อ พ.ศ. 2561 ที่พูดกับฉันว่า "3 ปีนี้จะทำอะไรก็ทำ เพราะเราอยู่ในจุดที่งานที่เคยยาก...มันจะง่าย"
แล้ว 3 ปีหลังจากนั้น ท่านก็จากไปจริงๆ ฉันรู้สึกว่า ‘ความคิดถึง’ คุณแม่ศันสนีย์ ...เป็นสติรูปแบบหนึ่งในวันนี้ ที่ช่วยทำให้ฉันรู้สึก 'มีกำลังใจ' และ 'ขอบคุณ' โอกาสดีๆ ตลอดชีวิตที่แม้จะเจอสังคมย่ำแย่อย่างไรก็ไม่เคยต้อง 'เอาตัวรอด' ด้วยการทำสิ่งที่ขัดแย้งกับเป้าหมายชีวิตของตัวเอง มีบุญที่ได้เจอ 'โอกาสทำดี' ที่ผู้ใหญ่มอบให้เสมอ และมีบุญยิ่งที่รู้จัก “พาตัวเองไปอยู่ในที่ที่ดี”
‘การอยู่ในถิ่นอันสมควร (ปฏิรูปเทสวาโสจ)’ เป็นภาษาธรรมที่โดนใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินเมื่อ 20 ปีก่อนและช่วยปลดล็อกความคิดที่ว่า “เราควรจะใช้ชีวิตอย่างไรในโลกที่ไหลไปสู่ความเสื่อม” เป็นธรรมข้อที่ 4 จาก มงคล 38 ประการ 'ปฏิรูปเทสวาโสจ' หมายถึง พาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี แวดล้อมไปด้วยบัณฑิตทั้งทางโลกและทางธรรม .... เพราะแม้เราเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีแค่ไหนแต่หากไปตกในที่ร้อนแล้ง เราก็อาจไม่มีโอกาสแม้แต่จะงอก ส่วนการจะเติบโตอย่างมีคุณค่านั้นอย่าได้หวัง ดังนั้น บทเรียนชีวิตบอกเราว่า ยิ่งเรารู้ตัวเร็วเท่าไรว่าเราเป็นเมล็ดพันธุ์แบบไหน เราก็จะพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่โอบอุ้มเราได้เร็วเท่านั้น
.........
เมื่อ พ.ศ. 2561 นั้น คุณแม่ศันสนีย์ท่านคงมีประโยคที่คิดแต่ไม่ได้พูดออกมา ท่านคงอยากบอกว่า ... เมื่อมีโอกาสทำดีและทำได้ไม่ยากเพราะมีบารมีของท่านหนุนนำอยู่ ก็อย่าปล่อยโอกาสให้ผ่านไป ทำให้เต็มที่ อย่าประมาทว่ามันจะมีโอกาสดีๆ อย่างนี้ตลอดไป และเร่งสร้างบุญบารมีของตัวเองไว้
โลกก็เป็นเช่นนี้ ตั้งแต่ไหนแต่ไรแม้แต่ในครั้งพุทธกาล ... มีความจริงที่ว่า ความโลภ โกรธ หลง เป็นอำนาจฝ่ายต่ำที่ครอบงำมนุษย์อยู่ ... ตัวเราเกิดมา เดิมคิดว่ามีทางเลือกอยู่ 2 ทาง สุดโต่งหนึ่งคือเอากับเขาด้วยแบบตามน้ำ กับอีกสุดโต่งหนึ่งคือต่อต้านจนสุดกำลังแบบทวนน้ำ แต่เมื่อใช้ชีวิตมาพบพระพุทธศาสนา ก็ได้เห็นทางเลือกอื่นที่ว่า ... ในกระแสน้ำนั้น หากมีบุญมีปัญญารู้จักแสวงหา ‘ปฏิรูปเทสวาโสจ’ ก็จะพบเจอ 'ที่ทางของตัวเอง' ที่จะพอเหมาะพอดีกับการมีชีวิต ที่ทำให้เราไม่ไหลไปทางที่เสื่อมแต่ก็ไม่เบียดเบียนตัวเองจนหมดแรง ยังคงใช้ชีวิต “อยู่อย่างมีความหมายและตายอย่างมีคุณค่า” ได้อย่างที่พระพุทธเจ้า คุณแม่ศันสนีย์ และปูชนียบุคคลทั้งหลายทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ... ธรรมสวัสดีค่ะ ขอให้ทุกท่านค้นพบ ‘ปฏิรูปเทสวาโสจ’ ของตัวเองนะคะ
......
บ๊ายบายกับความเศร้าใจ ... มีสติมีปัญญา เห็นความเศร้าจางคลายไปและทำงานสร้างโลกในโอกาสที่มีต่อไปค่ะ....ชวนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ตามดูความรู้สึก จ๊ะเอ๋...บ๊ายบาย อะไรกันบ้างในแต่ละวัน ได้ในคอมเม้นต์นะคะ #จ๊ะเอ๋บ๊ายบาย_ไดอารี่ #71ปีชาตกาล_แม่ชีศันสนีย์_เสถียรสุต #เสถียรธรรมสถาน
Comments