คุณปรารถนา มงคลกุล (พี่ติ่ง) นักธุรกิจ กรรมการมูลนิธิ ดร. กำจัด-ปราณี มงคลกุล

“Buddhist name (ชื่อทางธรรม) คือ จิตตวิสุทธาพุทธสาวิกา แปลว่าผู้มีจิตหมดจดยิ่ง”
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
“บวชมาประมาณเกือบ 10 เดือนเจ้าค่ะ ตั้งแต่ 1 พฤษภาคมปีที่แล้ว มีเรื่องทุกข์ใจมาก ก็หอบผ้าหอบผ่อนมาหาคุณแม่เลย คุณแม่ก็รับ ไม่ถามสักคำ คือยิ่งอยู่ยิ่งอิ่มใจ ยิ่งอยากเรียนรู้มากขึ้น แล้วก็ยิ่งอยู่ยิ่งทำให้เราไม่ทุกข์อีก แต่ก่อนนี้ไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้เลย ไม่เคยที่จะคิดอย่างนี้เลย คิดว่ามีความสุขก็ เอ้า ! ไปปาร์ตี้ไปเที่ยวไปอะไร ซึ่งมันก็ไม่ได้จีรัง ถึงเวลามีทุกข์จริง ๆ เรื่องพวกนั้นหรือสิ่งของหรือเงินทองก็ช่วยเราไม่ได้ แต่สิ่งที่พระพุทธเจ้าให้ สิ่งที่คุณแม่ได้ถ่ายทอดให้นี้ช่วยเราได้ ฉุดช่วยเราได้”
“เคยทุกข์เรื่องนี้มาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่รู้กี่ทีจนมาครั้งนี้คุณแม่ชี้ทางสว่างให้ ก็เลยคิดว่าไม่เคยมาทางนี้เลย ลองดูซิว่าทำแล้วจะหายทุกข์หรือทุกข์น้อยลงไหม ผลปรากฏว่าทุกข์น้อยลง แล้วก็ปีติมากขึ้น แล้วจริง ๆ ก็อยากให้คนอื่นในสังคมที่มีความรู้ทางด้านนี้น้อยเข้าใจได้แบบเรา”
“เรื่องการปลงผมไม่ใช่ปัญหาเลยนะคะ พอคิดว่าจะบวชปั๊บเนี่ย ไม่ได้คิดเรื่องเกี่ยวกับว่าจะต้องโกนหัวจะต้องปลงผมเลย แต่กว่าจะได้ความคิดนี้ก็นาน เพราะอาจจะไม่ถึงเวลาของตัวเอง ความคิดนี้เกิดจากการที่มีท่านแม่ชีศันสนีย์ท่านบอกว่าทำไมไม่บวชล่ะ ตัวเองก็ยังคิดว่าจะบวชได้หรือ เพราะเป็นคุณหนู แล้วก็อาจจะไม่ได้อึดถึกเหมือนท่านแม่ชีที่แก่งกระจานทั้งหลาย”
“เห็นท่านแม่ชีทำงานแล้วเราเหนื่อยแทน เราก็พยายามทำแบบท่านนะ แต่เหนื่อยแทน แล้วก็ดูโรลโมเดล (ต้นแบบ) ของเรา คือคุณแม่ศันสนีย์ ท่านทำงานหนักจริง ๆ ก็กลัว กลัวอย่างเดียวว่าจะทำไม่ได้ ท่านก็พูดให้เข้าใจว่า จริง ๆ ก็เป็นไปอย่างที่ตัวเองเป็น”
“หลังจากนั้นก็มี inspiration (แรงบันดาลใจ) คือเห็นพี่ที่รู้จักกันที่เป็นผู้หญิงรวย สวย เก่ง แล้ววินาทีที่เห็นพี่เขาบวชใน Facebook ก็ตัดสินใจได้เลยว่าเราจะต้องบวช เพราะว่าผู้หญิงก็ทำได้จริง ๆ”

“คนอ่อนแอมันไม่มีหรอกในโลกนี้ ถ้ายอมรับอย่างที่ตัวเองเป็นแล้ว ตัวเองจะหากุศโลบายในการที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นมันค่อย ๆ เกิดขึ้นโดยสำนึกของตัวเอง ไม่มีใครสั่งใครให้บรรลุธรรมได้ แต่ทุกคนจะต้องเคารพและถ่อมตัวกับชีวิตในปัจจุบันกรรม ที่จะลงทุนอย่างไม่ไปใส่มงกุฎอยู่ในนรก ชนะแต่อยู่ในนรกมันก็ไม่ได้ถูกต้อง สิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่เธอดำริด้วยตัวของเธอเอง คุณแม่ไม่ได้ชวนด้วยนะคะ” แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
“คุณแม่ก็สอนว่าจะทำอะไรก็รีบทำ ซึ่งคุณแม่ก็พูดเรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว แต่มันอาจจะยังไม่ถึงเวลา ไม่โดนใจเรา พอเห็นเสถียรธรรมสถาน กรุงเทพมหานคร ไฟไหม้ ก็เลย เอิ่ม ! คิดได้ว่าทำตอนนี้ ช่วงที่เรายังเดินเหินได้ดีกว่าอยู่บนเตียงนอนรอเวลาสุดท้าย อยากจะทำแต่ไม่ได้ทำ ก็ตัดสินใจบวชเลย”
“แล้วก็หาเวลาที่ดีที่สุดก็คือเดือนที่เป็นทั้งวันครบรอบ 40 พรรษาของคุณแม่ เป็นทั้งวันเกิดเราเอง เป็นวันพระใหญ่ วันมาฆบูชา แล้วก็เป็นวันที่ต้องบอกอีกอันหนึ่งคือ เป็นวันที่เราไม่ได้มีภาระอะไร คือการที่ถ้าเรายังมีภาระอะไรแล้วมาบวช ก็ไม่แนะนำนะคะ แล้วก็เป็นวันที่คนรอบข้างเข้าใจแล้วก็ไม่ได้ฉุดเราไว้ ก็อยากจะฝากทุกคนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวดิฉันเองก็คือ เมื่อมีการตัดสินใจทำก็ทำเลย ไม่มีการรีรอ เพราะถ้าใครพร้อมที่จะทำดี มีโอกาสที่จะทำ หากทุกคนเริ่มทำเริ่มปฏิบัติได้ ชีวิตมันก็ไม่ได้มีอะไรแน่นอน อยากให้ทุกคนได้ช่วยกันในการประกอบกรรมดีแล้วก็ละเว้นความชั่ว”
“ถ้าหวังเยอะ ๆ ก็คือถ้าถึงหนทางนิพพานได้ คงจะเป็นที่สุดนะเจ้าคะ แต่ถ้าหวังน้อย ๆ ก็คือทุกข์น้อยลง แล้วก็มีแนวทางในการดำเนินชีวิตให้ได้มากขึ้น แล้วถ้าสามารถออกไปฉุดช่วยได้มากกว่านี้...ก็จะช่วยค่ะ
“คือถ้าผู้หญิงหนึ่งคนที่มีสติปัญญา ไม่ต้องไปร้องขอใคร ไม่ต้องไปชะเง้อเรียกร้องความเท่าเทียม นิพพานนี่ทุกคนได้หมด ถ้าทำ ถ้าเอาออก” แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต#กิจกรรมบวชพุทธสาวิกาศีล10#บวชชีปลงผม#หุบเขาโพธิสัตว์
Comments