คุณสายสัมพันธ์ ปัญญศิริ ประธานมูลนิธิเสถียรธรรมสถาน เปิดอาคารอเนกประสงค์ ศส. ณ เสถียรธรรมสถานหุบเขาโพธิสัตว์
วันอังคารที่ 30 เมษายน 2567 คุณสายสัมพันธ์ ปัญญศิริ ประธานมูลนิธิเสถียรธรรมสถาน พร้อมด้วยกรรมการมูลนิธิร่วมกันเปิดอาคารอาคารอเนกประสงค์ ศส. ซึ่งเป็นอาคารที่สร้างขึ้นจากความกตัญญูของอดีตพุทธสาวิกา
อดีตพุทธสาวิกาที่บวชในรุ่น 509 รุ่นประทานพร รุ่นกระดุมทอง รุ่นพุทธสาวิกาสามแผ่นดิน ปี 2566 ซึ่งอดีตพุทธสาวิกาทั้ง 4 รุ่นนี้ได้เห็นความสำคัญของการทำงานเพื่อสร้างสังฆะนักบวชสตรี และให้โอกาสผู้หญิงได้ศึกษาและเรียนรู้ธรรมของท่านอาจารย์คุณแม่ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุตจึงรวมพลังกันแสดงความกตัญญู กตเวทิตาคุณต่อท่านอาจารย์คุณแม่ด้วยการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ไว้ที่หุบเขาโพธิสัตว์ เพื่อเป็นอาคารสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงเป็นอาคารสำหรับการภาวนา การฝึกอบรมสำหรับนักบวชสตรีที่หุบเขาโพธิสัตว์ โดยอาคารหลังนี้เริ่มวางศิลาฤกษ์เริ่มก่อสร้างในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีพระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร เป็นผู้วางศิลาฤกษ์ จนแล้วเสร็จสามารถเปิดใช้งานอาคารอเนกประสงค์หลังนี้ได้ในวันที่ 30 เมษายน 2567 โดยมีพระครูวิจักษ์ วัชรธรรม เจ้าคณะอำเภอแก่งกระจาน เจ้าอาวาสวัดห้วยกวางจริง มาเป็นประธานในพิธีสงฆ์เพื่อเจริญพุทธมนต์ในการเปิดใช้อาคารรวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 2 เดือน 26 วัน
คุณสายสัมพันธ์ได้กล่าวถึงที่มาที่ไปของอาคารนี้ไว้ว่า
"อาคารหลังนี้เป็นอาคารที่อดีตพุทธสาวิกามาร่วมกันสร้างเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูที่ไปจนถึงกตเวทิตาคือแสดงออกถึงความกตัญญูจนเห็นเป็นรูปธรรมต่อคุณแม่ จนสำเร็จออกมาเป็นอาคารที่จะเป็นประโยชน์สูงสุด เพราะสามารถใช้สอยได้หลากหลาย หรือแบบที่เราเรียกว่าอเนกประสงค์ตามชื่ออาคารเลย เพราะในหุบเขาโพธิสัตว์นี่แทบจะไม่มีอาคารถาวรสำหรับการทำกิจกรรมเลย นั่นเป็นเพราะนโยบายของคุณแม่ที่จะให้เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมกันแสดงความรักและความกตัญญูต่อคุณแม่ในวันนี้นะคะ ยายก็จะขอทำงานสืบสานปณิธานของคุณแม่เพื่อให้ผู้หญิงได้มีโอกาสศึกษาธรรมต่อไปอย่างสุดกำลังค่ะ"
คุณสายสัมพันธ์ ปัญญศิริ
ประธานมูลนิธิเสถียรธรรมสถาน
สำหรับอาคารหลังนี้แม้จะเป็นการร่วมกันสร้างของอดีตพุทธสาวิกาแต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ยากถ้าไม่มีผู้เสียสละที่ช่วยผลักดันและทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ ไปจนถึงทุ่มเทเวลาอย่างจริงจังและพี่ใหญ่หรือคุณคุณจำลองลักษณ์ วรรณประภา อาสาสมัครหัวใจโพธิสัตว์ เจ้าของบริษัท แอรีส ไนน์ จำกัด ได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการร่วมสร้างอาคารหลังนี้ดังนี้
" พี่มาช่วยคุณยายตุ๋มทำเรื่องการก่อสร้างที่หุบเขาเพราะพี่รู้ว่าทั้งคุณแม่และคุณยายตุ๋มท่านทำงานหนักเพื่อให้โอกาสผู้หญิงได้ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า พี่ได้โอกาสในการบวชที่นี่ถึง 4 ครั้ง พี่บวชในรุ่น 509 รุ่นประทานพร รุ่นกระดุมทอง รุ่นพุทธสาวิกาสามแผ่นดิน ปี 2566 แล้วก็ได้มาปฏิบัติที่หุบเขา พี่เป็นคนทำงานแล้วพี่ก็ได้เรียนรู้หลายอย่างจากคุณแม่ในตอนที่พี่บวชเพราะคุณแม่ท่านก็เป็นคนทำงาน แล้วท่านก็ทำงานที่เป็นประโยชน์เพื่อคนอื่น ในเมื่อคุณแม่ไม่อยู่พี่ก็ไม่อยากให้คุณยายตุ๋มต้องทำงานหนักอยู่คนเดียวพี่ก็เลยอยากช่วย เพราะพี่ก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้ประโยชน์จากคำสอนของคุณแม่ ท่านเป็นคนที่เตือนให้พี่ลดอัตตาตัวตนแล้วพี่จะทำงานสำเร็จ วันนี้ท่านไม่อยู่แล้วพวกเราซึ่งเป็นลูกศิษย์ต้องเดินต่อไป ในอาคารหลังนี้จึงมีสิ่งที่พี่ออกแบบไว้บนผนังอาคารเพื่อเป็นการบอกพวกเราในหลายจุดเช่น ภาพที่คุณแม่เดินหันหลังให้เราพร้อมกับคำพูดของท่านที่บอกว่า 'ไม่ว่ายากอย่างไร ก็จะทำให้สำเร็จ' หรือ ภาพของท่านด้านหน้าห้องที่ออกแบบเป็นโมเสกที่มีภาพนักบวชเป็นภาพเล็กๆ ทุกคนทุกรุ่นมารวมกันเป็นภาพคุณแม่ ทั้งหมดนี้เพื่อสื่อว่าคุณแม่ท่านไม่อยู่แล้ว แต่พวกเรายังคงทำงานตามเจตนาของท่านจะให้โอกาสผู้หญิงได้ศึกษาธรรมะของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อไป" จำลองลักษณ์ วรรณประภา อาสาสมัครหัวใจโพธิสัตว์ เจ้าของบริษัท แอรีส ไนน์ จำกัด สำหรับท่านที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อการภาวนาและพัฒนาปัญญาไปสู่ความพ้นทุกข์หรือต้องการสนับสนุนให้ผู้หญิงได้มีโอกาสศึกษาธรรมสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ทาง line@sdssil8